การผลิตอลูมิเนียม
ในปี ค.ศ. 1886 Charles Martin Hall เป็นนักศึกษาที่วิทยาลัย Oberlinใน Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อใช้ในการอิเล็กโทรไลซิสสำหรับผลิตอะลูมิเนียม และในขณะเดียวกัน Paul Heroult ในประเทศฝรั่งเศส ค้นพบวิธีทันสมัยที่สุดในการผลิตอะลูมิเนียมด้วยการอิเล็กโทรไลซิสในห้องปฏิบัติการที่ปารีส
1. กระบวนการทำแร่บอกไซด์ให้บริสุทธิ์ เรียก กระบวนการเบเยอร์ ใช้แร่บอกไซด์ (Al2O3) มีมลทินปน คือ Fe2O3 และ TiO2จึงต้องแยกมลทินออกก่อน และเนื่องจาก เป็นสารแอมฟลอเทอริก (เป็นกรดและเบส) จึงนำแร่บอกไซด์ที่มีมลทินอยู่ด้วย ไปละลายในสารละลาย NaOH จะพบว่า Al2O3 ละลายใน NaOH แต่มลทินเป็นออกไซด์ที่มีสมบัติเป็นเบส ไม่ละลายใน NaOH แล้วกรองตะกอนที่เป็นมลทินออก ดังนี้
Al2O3(s) + 2OH-(aq) + 3H2O(l) ---> 2[Al(OH)4]-(aq)
นำสารละลายที่ได้เจือจางด้วยน้ำแล้วเติมกรดให้เกิด Al(OH)3 ตกตะกอน ดังนี้
[Al(OH)4]-(aq) + H3O+(aq) ---> Al(OH)3(s) + 2H2O(l)
กรองตะกอน Al(OH)3 ออก แล้วเผาจะได้ Al2O3 บริสุทธิ์ คือ
2Al(OH)3(s) ---> Al2O3(s) + 3H2O(g)
2. กระบวนการผลิต Al จากแร่บอกไซด์ (Al2O3) เรียกว่า การถลุง Al จากแร่บอกไซด์ หรือ Hall Heroult Process Al2O3 มีจุดหลอมเหลวสูงมาก (2020 ํC) และ Al2O3 หลอมเหลวจะนำไฟฟ้าน้อย การอิเล็กโทรไลซิส Al2O3 หลอมเหลว จึงไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นจึงต้องละลาย Al2O3 15% โดยมวลจากสินแร่ไครโอไลต์ (Na3AlF6) เหลวที่อุณหภูมิประมาณ 1000 ํC จะได้สารละลายที่นำไฟฟ้าได้ดี จากนั้นก็นำสารละลาย Al2O3 ในแร่ไครโอไลต์เหลวไปแยกด้วยไฟฟ้าในเซลล์อิเล็กโทรไลซิส ที่อุณหภูมิประมาณ 950 ํC ( ซึ่งต่ำกว่าจุดหลอมเหลวของ Al2O3) ได้โลหะ Al ที่มีความบริสุทธิ์ประมาณ 99.0 – 99.8%
ที่แคโทด Al3+ ไอออนถูกรีดิวซ์เกิดเป็นโลหะ Al อิสระเป็นชั้นๆ อยู่ในรูปขงเหลวจมอยู่ข้างล่างของสารละลายอิเล็กโทรไลต์
Al3+ + 3e- ---> Al(l)
ที่แอโนด เป็นแกรไฟต์ ออกไซด์ไอออนถูกออกซิไดซ์ให้ O2 อิสระ
8
ตอบลบ